![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhFf0KKR-u6aIDf1Vy1wZNPAzf9KOrIQYS1cZPKUkhYAYXZ0-IaIBupU2PJcGnmcwNxEu7Bua7gwBMidNG4B8rc8iifHXkd4eyL1gsMsC2LMi7ZyMZkPADGPtn_1AKEjZ1cs3uKhbDXHR8/s640/2016-03-07_113459-800x445.jpg)
ขั้นตอนการทำงานของ FBA
- สร้าง Account FBA – แม้ว่าเราจะมีแอคเค้าของ Seller อยู่แล้วก็ตาม แต่ FBA เป็นอีกบริการหนึ่งที่ต้องมีการสมัครแยกต่างหาก
- สร้าง List สินค้าที่จะทำการส่งแบบ FBA
- จัดเตรียมสินค้าลงกล่อง
- ส่งสินค้าไปยัง Amazon
- เมื่อมีคำสั่งซื้อเข้ามา ทาง Amazon จะเป็นคนหยิบ แพค และจัดส่งสินค้าให้ลูกค้า
- สินค้าที่ใช้ FBA จะถูกนำเข้าไปอยู่ใน Amazon Prime และ Free Shipping เพิ่มความน่าเชื่อถือและ
- จะถูกจัดอันดับในการขายที่ดียิ่งขึ้นด้วยตำแหน่ง Buy Box
- หลังจากส่งสินค้าเข้าโกดังของ Amazon ไปแล้ว ก็ไม่ต้องทำอะไรอีกเลย นอกจากเช็คจำนวนสินค้าคงเหลือและรอรับเงิน
- ไม่ต้องกังวลเรื่องส่งสินค้า ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในโลก
- มีค่าใช้จ่ายในการจัดการเพิ่มมากขึ้น
- ต้องมีการวิเคราะห์สินค้ามาอย่างดี ไม่เช่นนั้นสินค้า(และเงินทุน)จะไปค้างอยู่ในโกดัง
- ค่าส่งสินค้าและค่าภาษี (ถ้ามี) ในการส่งสินค้าเข้าไปในอเมริกาเราเป็นผู้รับผิดชอบเอง Amazon ไม่ได้ช่วยอะไรในการขนส่งในขั้นต้นทาง
ไม่ใช่สินค้าทุกชิ้นจะสามารถทำ FBA ได้ เพราะการทำ FBA คือการส่งของไปไว้ที่โกดังต่างประเทศ ยิ่งของขนาดใหญ่ หรือมีน้ำหนักมาก ค่าส่งจะยิ่งแพงยิ่งขึ้น สินค้าที่เป็นจำพวกแก้วหรือเซรามิคไม่ควรทำ เพราะนอกราคาขายที่ไม่สูงแล้ว น้ำหนักมากและยังเสี่ยงต่อการแตกเสียหายอีกด้วย