![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhQkfafUNJvQqPcSbaXe8NEFM2mm6U2_O1MmZrYn7wJiTN-FhZ2rgZcnlPRwpzzi0gTO8NTNGu0Fa5zosMuzcolVdOIUu2CUBLeLXge3YLz_Z9J3k01A2uu1Hch35y1hy4IZVyR3YFckfM/s640/picjumbo.com_HNCK3323-cr-800x445.jpg)
เกณฑ์การเลือก Dropshipper ทำ Dropship คู่ใจ ไม่ให้ผิดหวัง
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhrR2JOVe4RPWyFd9zsnJSI2Z59mjTetoJ3fBKKQMMUXYDMUIoIaboN2qVE2HOl575gRiY4CyQepzcrDvG9SGUS4doUOCd5rWBSkXgvBcpIJt1-kESnGPIQ9M41WwfPXUSCJlmH48C3wig/s640/2016-02-09_123400-vert-768x396.jpg)
1 ความน่าเชื่อถือ
เว็บไซต์อย่าง Alibaba, AliExpress นั้นจะมีส่วนที่แสดงความน่าเชื่อถือของ Dropshipper เอาไว้ ทำให้การตรวจสอบของเราง่ายขึ้น หลักการดูความน่าเชื่อถือ ผมยกตัวอย่างของ Aliexpress.com ก็แล้วกัน โดยจะมีลำดับขั้นจากน้อยไปหามากตามนี้ เหรียญตรา >> เพชร >> มงกุฎ โดยแต่ละขั้นจะมีตั้งแต่ 1 – 5 ขึ้นกับจำนวน Feedback ที่ได้รับจากลูกค้า
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEikHPkduv3UaEvghsEOqeyLYCVfSVbD7p2ZPBQupyYmMtQc4HWmOkOSl0W8cmtNF8-m68ghgZ23t3cdMvkjYBHjA_LQ-MVH47UtlSjM5QOlbL7qPP8gpRiR1kGk3PFbMEaUrwKhDGQycGE/s1600/2016-02-09_124738.jpg)
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhbusF4rFpV6ly40bGUMKfNgO2y_WQA1T-xnOddPc3u8RSBG5roJfrP9pJex5LiuQLA24wc5qeVRjIKtfN4XbSqC5qJubBiWDi3z_lvvToqu_r1-jCs6mBkmzNn5hvJpIDvwMwSu_7p6sA/s1600/2016-02-09_124617.jpg)
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjJLWoE9hRGC0nl5EwmUmt8LNyI_nzZ3lgCODRQm2gSiLxlzFxt7jLLwi99qQenytma0EEOCNBka7ELoipZ_6dZ8AYV5nDSO6K9bzBJUeKQhW_W2HPj1peIOclEYdpqbTFzPh4jUy3RIXA/s1600/2016-02-09_124511.jpg)
2 ราคาขายที่ถูกกว่า
ราคาขายเป็นส่วนที่สำคัญ หากเรามีต้นทุนต่ำ ก็จะทำให้อัตราส่วนของกำไรเพิ่มขึ้นด้วย ใน Aliexpress นั้น สินค้าชิ้นเดียวกันจะมีการเสนอราคาจำนวนมาก เราสามารถระบุเงื่อนไขต่างๆ ก่อนการค้นหาราคาสินค้าได้ สินค้าชิ้นเดียวกันอาจจะมีราคาขายต่างกันหลายเหรียญเลยก็มี ให้เลือกราคาที่ถูกพร้อมความน่าเชื่อถือของร้าน
3 จัดส่งฟรี
มีค่าส่งเท่ากับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ตรงนี้ขอให้ดูให้ดี หลายเจ้าใน Aliexpress เสนอสินค้าราคาถูกมาก แต่มีค่าส่งของบวกเพิ่ม ซึ่งทำให้ราคาแพงขึ้น คำแนะนำของผมคือ เลือก Dropshipper ที่ส่งสินค้าฟรี (Free Shipping) ซึ่งเราสามารถกรองผู้ขายได้จากฟิลเตอร์ Free Shipping ด้านบนก่อนการค้นหา
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhtF55Xn7g1UQqnkNpicEtCzX-c0_C9eY8tWGYk8c5K1_dgscdAjFQ3eg6zPRKycVPu_SzZRGNKrxKXbvdaVI2h5CrslLq9Rxdu2YueQ3z8Qj4hjiCdnvkzKCy-pfB4-zkv3SOTldiajPE/s640/2016-02-09_124828.jpg)
4 ระยะเวลาในการเตรียมจัดส่ง
ตามหลักของการขายสินค้าบน Amazon การส่งสินค้าควรจะเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า (ของ Amazon) ทางที่ดีที่สุดคือ เลือก Supplier ที่สามารถจัดส่งให้ได้ภายใน 1 วันทำการ (ships out within 1 business days) หรือในเกณฑ์เวลาที่เรายอมรับได้
แต่ถ้าเราเลือกสินค้ามีการเตรียมการช้ากว่านั้น ให้เราเข้าไประบุวันเตรียมการจัดส่งของใหม่ ที่หน้ารายละเอียดของสินค้า Inventory ใน Amazon Seller Central
5 จำนวนรีวิว และจำนวนออเดอร์ที่เคยถูกสั่งซื้อ
ก็เหมือนกับการซื้อสินค้ามาใช้เอง เราจะต้องดูรีวิวของลูกค้าที่เคยซื้อมาก่อนว่าเป็นอย่างไร ในฐานะเราเป็น Amazon Seller ก็เช่นกัน การอ่านดูจำนวน Feedback ตรงนี้ ก็เป็นอีกส่วนสำคัญในการเลือก Supplier เช่นกัน ยิ่งจำนวน Feedback มากเท่าไหร่ ก็จะส่งผลไปยังความน่าเชื่อถือของร้านในข้อที่ 1 ไปด้วย
นี่คือ 5 ข้อสังเกตุในการเลือกหา Dropshipper ที่ผมจะร่วมงานด้วย นอกจาก 5 ข้อนี้ ผมขอเสริมคำแนะนำเพิ่มเติมอีก 2 ข้อนั่นคือ
- ส่วนลด ตรงนี้ไม่เป็นข้อบังคับ แต่ถ้ามีก็ถือว่าดี ปกติแล้วหากเราทำการสั่งซื้อของเป็นจำนวนมาก ทางผู้ขายก็จะมีส่วนลดให้เราเป็นปกติอยู่แล้ว แต่ถ้าเราหาผู้ขายที่ยอมให้ส่วนลดกับเราแม้จะสั่งซื้อของทีละชิ้นได้ก็จะดีมาก ตรงนี้ขึ้นอยู่กับการติดต่อไปยังผู้ขายแต่ละเจ้าเองนะครับ ของผมเองได้ส่วนลด 3% ในทุกสินค้าที่สั่งแม้จะสั่งเพียงชิ้นก็ตาม ขอสงวนสิทธิ์ไม่เปิดเผยนะครับ
- พิสูจน์ เมื่อได้ข้อมูลและกลั่นกรอง Dropshipper จากตัวเลือกข้างต้นไปหมดแล้ว ก็ถึงเวลาที่ต้องพิสูจน์ด้วยการสั่งซื้อสินค้า จะพิสูจน์ด้วย order แรกจากการขายของกับ Amazon เลยก็ได้ครับ หรือจะทดลองสั่งซื้อมาดูก่อนก็ได้ เพื่อทดสอบการตัดเงิน ค่าใช้จ่ายแฝงอื่นๆ และระยะเวลาในการจัดส่ง (ในส่วนระยะเวลา พบว่าการส่งจากจีนไปอเมริกา จะเร็วกว่า จากจีนมาไทยครับ)