เป็นผู้ขายใน Amazon ต้องใช้อะไรบ้าง

เป็นผู้ขายใน Amazon ใช้อะไร บ้าง?? หลายคนมีความตั้งใจแล้ว แต่ก็ยังสงสัยว่าการจะเป็นผู้ขายใน Amazon ใช้หลักฐานอะไรบ้าง การเป็นผู้ขายสินค้าใน Amazon.com นั้นทำได้ไม่ยาก เป็นบุคคลธรรมดาก็สามารถทำได้ ไม่เหมือนทางฝั่ง Amazon UK ที่ผู้ขายจะต้องเป็นบริษัทหรือร้านค้าจริงๆ ถึงจะสมัครเข้าเป็น Amazon Seller ของ UK ได้
เป็นผู้ขายใน Amazon ใช้อะไร บ้าง
การเป็นผู้ขายสินค้า หรือ Seller กับทาง Amazon.com ไม่มีความจำเป็นต้องส่งเอกสารหรือหลักฐานใดๆ สิ่งที่จำเป็นต้องใช้มีเพียงแค่

1 บัตรเครดิต หรือบัตรเดบิต (ที่สามารถตัดเงินออนไลน์ได้)
ตรงนี้หากใครมีบัตรเครดิตก็สามารถใช้ได้เลยไม่มีปัญหา แต่ถ้าใครไม่มีก็สามารถใช้บัตรเดบิตที่มีคุณสมบัติตามหัวข้อคือ ตัดเงินออนไลน์ได้ ในที่นี้ผมแนะนำให้ใช้บัตรเดบิตของธนาคารกสิกรไทย จากประสบการณ์ที่ใช้อยู่ บัตรมีความสามารถในการจ่ายเงินออนไลน์ได้รวดเร็วปลอดภัยรวมถึงยังใช้ได้แม้ในต่างประเทศอีกด้วย อีกบัตรหนึ่งก็จะเป็นบัตร Be-First ของธนาคารกรุงเทพซึ่งสามารถใช้งานออนไลน์ได้ดีเช่นกัน

ใน ขั้นตอนการสมัครเป็นผู้ขายกับ Amazon นั้น จะมีการตัดเงินออกจากบัตรด้วยประมาณ $1.00 นะครับ ไม่ต้องตกใจไป เขาจะพิสูจน์ว่าบัตรสามารถใช้ได้จริงหรือไม่เท่านั้นเอง

สาเหตุที่ต้องใช้บัตรเครดิตหรือเดบิต มีอยู่ว่า หากลูกค้าที่ซื้อสินค้าไปมีความต้องการที่จะคืนสินค้า ทาง Amazon จะทำการตัดเงินคืนให้ลูกค้าได้จากบัตรเครดิตหรือเดบิตที่เราลงทะเบียนไว้ในทันทีครับ

2 บัญชีธนาคารกรุงเทพ
เมื่อทำการสมัครเรียบร้อยแล้ว เราจะต้องไปกรอกเลขบัญชีธนาคารที่ Account info กันก่อน โดยการจุดประสงค์เพียงเพื่อใช้รับเงินจาก Amazon เท่านั้น ที่ต้องเป็นธนาคารกรุงเทพก็ไม่ใช่อะไรหรอกครับ เพราะว่ามันสะดวกที่สุดนั่นเอง เนื่องจากในอเมริกามีธนาคารกรุงเทพสาขานิวยอร์คอยู่ด้วย จึงสามารถโอนจากนิวยอร์คมาไทยได้เลย โดยจะมีค่าธรรมเนียมทั้งในส่วนการโอนเงินและการรับเงินอยู่ด้วย 2 รายการ มีรายละเอียดดังนี้

ค่าธรรมเนียมการโอนเงินจากนิวยอร์คมาไทย
  • ยอดเงินโอน น้อยกว่า $50 ไม่คิดค่าธรรมเนียม
  • ยอดเงินโอน $51-$100 คิดค่าธรรมเนียม $3
  • ยอดเงินโอน $100.01-$2,000 คิดค่าธรรมเนียม $5
  • ยอดเงินโอน $2,000.01-$50,000 คิดค่าธรรมเนียม $10
  • ยอดเงินโอน $50,000.01 ขึ้นไป คิดค่าธรรมเนียม $20
ค่าธรรมเนียมการรับเงินจากต่างประเทศ
  • มีค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 200 บาท หรือ
  • 0.25% ของมูลค่าเป็นเงินบาท แต่ไม่เกิน 500 บาท
วิธีอื่นๆ ที่จะใช้ในการรับเงิน
การรับเงินโดยวิธีอื่นนั้นก็มีอยู่ แต่อาจจะยุ่งยากขึ้นอีก ยกตัวอย่างเช่น

บัตร Payoneer สามารถทำได้โดยการสมัครบัตรกับทาง Payoneer ก่อน แล้วเขาจะมี Account ของธนาคารในสหรัฐให้เรา ซึ่งจะเป็น Century Bank สามารถตั้งค่าการรับเงินให้โอนเข้าธนาคารนี้ได้ จากนั้นก็ใช้บัตร Master Card ที่ได้จาก Payoneer มากดเงินสดออกที่ไทย ซึ่งก็เสียค่าธรรมเนียมในการกดออกเช่นเดียวกัน โดยค่าธรรมเนียมต่างๆของ Payoneer ดูได้ครับ

3 หมายเลขโทรศัพท์
เบอร์โทรศัพท์ธรรมดาที่ใช้อยู่ในประเทศไทยนี่แหละครับ ในขั้นตอนการสมัครเขาจะมีให้เลือกว่าจะรับรหัสยืนยันแบบไหนดี แบบให้ฝรั่งโทรเข้ามาหรือว่าจะเป็นข้อความ SMS

เห็นไหมครับว่าการ เป็นผู้ขายใน Amazon ใช้อะไร บ้าง คำตอบก็มีเพียงเท่านี้ครับ ถ้าง่ายขนาดนี้ก็เริ่ม สมัครเป็น Amazon Seller นำเงินตราเข้าประเทศกันเลยครับ