![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjhKcSFqY5RiJmz7IdGt2vgMC5EOEZhaSJxIMyvh8Sy8I-6Xxs9ccS29ggWmxP14yFCmwb2jQZ4JRTFRK69yDP_NKyplajzbCcvHgF_RO-2Us43w4ZIM-9fKbGCnRodXeG-bTPs5Bey7OA/s1600/%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25B3%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%25A2%25E0%25B9%2581%25E0%25B8%2595%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2581-The-4-Hour-Workweek-800x445.jpg)
ทำน้อยแต่รวยมาก ชื่อใหม่ของ The 4 Hour Workweek
จนกระทั่ง( มิถุนายน 2558 ) ก็ได้มีการตีพิมพ์หนังสือ The 4 Hour Workweek ขึ้นใหม่อีกครั้งจากสำนักพิมพ์ Be Better และไม่ใช่การนำฉบับแปลของเก่ามาพิมพ์ใหม่ แต่เป็นการแปลใหม่ทั้งหมดจากต้นฉบับที่มีเนื้อหาเพิ่มเติมใหม่เข้าไปอีก กว่า 100 หน้า
ดังนั้นแม้ว่าเราจะมีหนังสือในเวอร์ชั่นเก่าครอบครองอยู่ก่อนแล้วก็ตาม The 4 Hour Workweek (ทำน้อยแต่รวยมาก)เวอร์ชั่นใหม่นี้ก็ยิ่งสมควรซื้อเป็นอย่างยิ่ง
หากใครยังไม่รู้จักหนังสือเล่มนี้มาก่อน สามารถอ่าน รีวิว พิมพ์เขียวแห่งอิสรภาพ The 4-Hour Workweek เวอร์ชั่นเก่าได้ครับ
The 4 Hour Workweek เล่มใหม่ มีอะไรแตกต่าง
เริ่มจากปก
ปกยังคงใช้สีเหลือง แต่เป็นสีเหลืองที่ออกไปทางโทนร้อน ให้ความรู้สึกดึงดูดมากขึ้นกว่าปกแบบเก่า และยังออกแบบปกและชื่อหนังสือใหม่ทั้งหมด การตั้งชื่อหนังสือดูจะเป็นความนิยมของหนังสือในตลาดสมัยนี้ที่ต้องมีคำว่า “รวย” อยู่บนปก หนังสือเล่มนี้ก็เช่นกัน ชื่อหนังสือเป็นภาษาไทยคือ “ทำน้อย แต่รวยมาก” แต่ประเด็นคือ เนื้อหาในเล่มมีความสัมพันธ์กับชื่อหนังสือจริงๆ
เนื้อหาส่วนเดิมยังอยู่ครบ แถมมีเพิ่มด้วย
แม้จะเป็นเนื้อหาในส่วนเดิมของหนังสือจะเป็นเรื่องเดิม แต่ผู้เขียน (ทิม เฟอร์ริส) ก็ได้เพิ่มเติมทุกสิ่งทุกอย่างที่เขารู้มาใหม่ ใส่เข้าไปทั้งหมด รวมทั้งความเห็นของผู้ที่ได้นำสิ่งเหล่านั้นไปปฏิบัติจริงจนเกิดผล ที่อยู่ตามท้ายบทต่างๆ นอกจากนี้ยังเพิ่มเติมส่วนของเครื่องไม้เครื่องมือ เว็บไซต์ที่จำเป็นต่อการสร้างอิสระไว้อย่างครบถ้วนและทันสมัย
ส่วนเพิ่มเติมหลังปี 2008
เนื้อหาในหนังสือได้ถูกเขียนเพิ่มเติมเข้าไปอีกว่า 100 หน้า ซึ่งจัดว่าเป็นส่วนที่น่าอ่านอย่างมาก(ไม่ว่าคุณจะมีเล่มเก่าอยู่แล้วหรือไม่ก็ตาม) มันแสดงให้เห็นถึงเครื่องมือต่างๆที่ถูกนำมาใช้จริงและถูกรวบรวมขึ้นจากผู้อ่านบล๊อกของทิมที่มาแสดงความคิดเห็นต่างๆไว้ในบล๊อก fourhourblog.com (ปัจจุบันได้ถูก redirect ไปที่ http://fourhourworkweek.com/blog/ แล้ว)
เครื่องมือที่ถูกกล่าวถึงในหนังสือ แม้จะเป็นสิ่งที่คนทำงานออนไลน์อย่างผม (และคนอื่นๆ) จะเคยใช้หรือใช้อยู่แล้วเป็นส่วนมาก แต่การประกอบเครื่องมือทั้งหลายให้กลายเป็นเครื่องจักรทำเงินได้จริงแบบอัตโนมัติ กลับเป็นศิลปะที่มีคนไม่มากเข้าถึงมัน The 4 Hour Workweek จะแสดงให้เห็นว่ามันประกอบกันอย่างไร จากตัวอย่างของ “ไลฟ์สไตล์ในทางปฏิบัติ” ซึ่งเป็นส่วนที่ผู้คนบอกเล่าถึงความสำเร็จของตนเองผ่านทางหนังสือเล่มนี้
คนเหล่านี้มีอยู่ในแทบจะทุกอาชีพ แม้แต่อาชีพที่เรานึดไม่ถึงต้องมีสักตัวอย่างที่เราจะสามารถนำมาใช้เป็นแบบอย่างได้
บางส่วนของเนื้อหาเพิ่มเติมที่เพิ่มเข้ามาในหนังสือ
และส่วนที่เพิ่มเติมมาในหนังสือจะเป็นส่วนที่เป็นเรื่องราวหลังจากปี 2008 (เล่มเดิมจบลงที่ปี 2008 ) เป็นต้นมา ซึ่งเป็นส่วนที่มีคุณค่ามาก อย่างเช่น
ศิลปะแห่งการแพคของท่องเที่ยว (หน้า 400 ) ที่ทิมได้แจงสิ่งของจำเป็นจริงๆ ที่เขาแพคใส่กระเป๋าเวลาเดินทางท่องเที่ยว บวกกับวิธี BIT ( Buy It There หรือ ไปซื้อเอาข้างหน้า ) ทำให้สามารถเดินทางได้ด้วยการมีน้ำหนักสัมภาระที่น้อยมาก ผมใช้วิธีการนี้ด้วยตอนเดินทางไปญี่ปุ่น นั่นทำให้การเดินทางเที่ยวญี่ปุ่นของผมครั้งนั้น 7 วัน 6 คืน มีน้ำหนักสัมภาระเพียง 4.5 กิโลกรัมเท่านั้นเอง
6 สูตรสำเร็จเพื่อชีวิตที่มีทางเลือกมากขึ้น แต่เหนื่อยน้อยลง
สิ่งนี้น่าสนใจครับ เพราะความรวยไม่ใช่แค่ในเรื่องของตัวเงิน แต่หมายถึงเวลาด้วย การตั้งกฎขึ้นมาเพื่อตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ส่งผลดีกับเวลาที่อาจจะสูญเสียไปโดยไม่จำเป็น ไม่นับเรื่องความลังเล เสียดาย ที่ต้องเสียเวลาอีกหลายชั้วโมงในการปรับอารมณ์ให้เข้าที่เดิม เราสามารถทำได้จริงและเริ่มจากสิ่งเล็กน้อย อย่าให้คำว่า “อะไรก็ได้” เป็นคำติดปาก
- วางกฏให้ตัวเอง เพื่อให้ตัดสินใจได้อย่างอัตโมัติที่สุด
- อย่าหาเรื่องมาขบคิด ถ้าคุณยังไม่สามารถลงมือทำมันได้ในขณะนั้น
- อย่าเลื่อนการตัดสินใจออกไป เพียงเพราะต้องการหลีกเลี่ยงบทสนทนาที่น่าอึดอัด
- ตัดสินใจเรื่องเล็กๆน้อยๆ ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
- อย่าเพิ่มทางเลือกโดยไม่จำเป็น การทำซ้ำแบบเดิมทุกวัน ทำให้การลองเรื่องใหม่ๆกลายเป็นสิ่งมีค่า
- กำจัดเสียงบ่นเพื่อลดขนาดความเศร้า ของความเสียใจในการตัดสินใจผิด
เชื่อผมเถอะ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ทำอาชีพอะไร เชื่อเหลือเกินว่าคุณก็ต้องการอิสรภาพในการใช้ชีวิต ทั้งในเรื่องของเวลาและเงิน แต่ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร มีวิธีการอย่างไร หนังสือเล่มนี้มีคำตอบครับ
ในเมืองไทยทำได้หรือ? ทำได้ครับ ทำกันมาเยอะแล้ว ไม่ว่าจะเป็น
- คุณเบนซ์ จิรายุ แห่ง sixpackhome
- คุณพอล แห่ง CEO Blog
- คุณปฐมถู แห่ง Chillrich
- คุณวิชญ์ แห่ง Vittarrot
อ่านแล้ว ลงมือทำด้วยครับ
แล้วพบกันในวันที่ไม่ต้องทำงานครับ
หากคุณสนใจเรื่องราวของบุคคลต่างๆ ที่ทำสำเร็จมาแล้วเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ผมแนะนำให้ไปดูที่ Startyourway.com แล้วคุณจะพบแรงบันดาลใจของการเป็นนายตัวเองจำนวนมากอยู่ที่นั่น